โครงงาน



แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์


1.   โครงงานเว็บบล็อกเรื่อง  “ตำรับของขนมไทย”

2.  ชื่อผู้เสนอโครงงาน
     2.1 นางสาววิชญา           แซ่ลิ้ม      เลขที่   16
     2.2 นางสาวกนกพร        พูนพานิช   เลขที่   20
     2.3 นางสาวศิรัญญา        ยะฝา      เลขที่   29

3.  ครูที่ปรึกษาโครงงาน       คุณครูเชษฐา เถาวัลย์

4.  หลักการและเหตุผล
         ขนมจัดเป็นอาหารที่คู่สำรับกับข้าวไทยมาตั้งแต่ครั้งโบราณ โดยใช้คำว่าสำรับกับข้าวคาว-หวาน โดยทั่วไปประชาชนจะทำขนมเฉพาะในงานเลี้ยง  นับตั้งแต่การทำบุญเลี้ยงพระ งานมงคลและงานพิธีการ  อาหารหวานที่จัดเป็นสำรับจะต้องประกอบด้วยของหวานอย่างน้อย 5 สิ่ง ซึ่งต้องเลือกให้มีรสชาติ สีสันชนิด ตลอดจนลักษณะที่กลมกลืนกัน แต่ละสำรับจะต้องมีผลไม้ 10 ที่ และขนมเป็นน้ำ 1 ที่เสมอ                               
      ประเทศไทยครั้งยังเป็นสยามประเทศได้ติดต่อค้าขายกับชาวต่างชาติ เช่น จีน อินเดีย มาตั้งแต่สมัยสุโขทัยโดยส่งเสริมการขายสินค้าซึ่งกันและกัน ตลอดจนแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมด้านอาหารการกินร่วมไปด้วยต่อมาในสมัยอยุธยาและรัตนโกสินทร์ ได้มีการเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศต่างๆ อย่างกว้างขวางไทยได้รับเอาวัฒนธรรมด้านอาหารของชาติต่างๆ มาดัดแปลงให้เหมาะสมกับสภาพท้องถิ่น วัตถุดิบที่หาได้ เครื่องมือเครื่องใช้ ตลอดจนการบริโภคนิสัยแบบไทยๆ จนทำให้คนรุ่นหลังๆ แยกไม่ออกว่าอะไรคือขนมที่เป็นไทยแท้ๆและอะไรดัดแปลงมาจากวัฒนธรรมของชาติอื่น เช่น ขนมที่ใช้ไข่และขนมที่ต้องเข้าเตาอบ ซึ่งเข้ามาในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช จากคุณท้าวทองกีบม้าภรรยาเชื้อชาติญี่ปุ่น  สัญชาติโปรตุเกสของเจ้าพระยาวิชเยนทร์ ผู้เป็นกงศุลประจำประเทศไทยในสมัยนั้น  ไทยมิใช่เพียงรับทองหยิบ ทองหยอด และฝอยทองมาเท่านั้น  หากยังให้ความสำคัญกับขนมเหล่านี้โดยใช้เป็นขนมมงคลอีกด้วย  ส่วนใหญ่ตำรับขนมที่ใส่มักเป็น "ของเทศ" เช่น ทองหยิบ ฝอยทอง ทองหยอดจากโปรตุเกส มัสกอดจากสกอตต์
         ขนมไทย เป็นเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรมประจำชาติไทยอย่างหนึ่งที่รู้จักกันดีในสมัยโบราณคนไทยจะทำขนมเฉพาะวาระสำคัญเท่านั้น ต่อมาได้มีการพิมพ์ตำราอาหารออกเผยแพร่ รวมถึงตำราขนมไทยด้วย ต่อมามีการค้าเจริญขึ้นในตลาดมีขนมนานาชนิดมาขาย
       ขนมไทย เอกลักษณ์ของความเป็นไทยอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันมีหลากหลายชนิดเราสามารถเห็นได้ทั่วไป และมีเพิ่มได้ทั่วไป มีหลากหลายรูปแบบ และได้มีการนำเสนอในทางสื่อและมีการขายทางอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้น


5.  หลักการ ทฤษฏีและเอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
      5.1 BlogGang  คือ "Web log" หรือเรียกสั้นๆ ว่า "blog" ชื่อดังกล่าวเริ่มใช้เมื่อเดือนธันวาคม ปี 1997 โดยผู้ที่คิดชื่อนี้คือ Jorn Barger "weblog" (เว็บ Blog) หมายถึงเว็บไซต์ส่วนตัว ที่ผู้สร้างหรือที่เรียกว่า blogger จัดทำขึ้นเพื่อเป็นที่บอกเล่าเรื่องราว สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน รวมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เสนอบทความใหม่ๆ วิจารณ์ข่าวสารบ้านเมือง หรืออื่นๆ ที่ผู้ใช้เห็นว่าน่าสนใจ พร้อมกันนั้น ยังเปิดให้ผู้เยี่ยมชมได้สามารถแสดงความคิดเห็นต่อ topic ต่างๆ ที่ได้ตั้งขึ้นอีกด้วย บล็อก (อังกฤษ: blog) หรือ เว็บล็อก (weblog) เป็นหน้าเว็บประเภทหนึ่ง ซึ่งคำว่า blog ย่อมาจากคำว่า weblog หรือ weblog โดยคำว่า weblog นั้นมาจาก web (เวิลด์ไวด์เว็บ) และ log (ปูม, บันทึก) รวมกัน หมายถึง บันทึกบนเวิล์ดไวด์เว็บ นั่นเองในปัจจุบันบล็อก ถูกใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการประกาศข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น การเผยแพร่ผลงาน ฯลฯ และกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยขณะนี้ได้มีผู้ให้บริการบล็อกมากมาย ทั้งแบบให้บริการฟรี และเสียค่าใช้จ่าย สรุปง่ายๆ Blog ก็คือ Website รูปแบบหนึ่ง ที่มีการจัดเรียงเรื่องหรือ post เรียงลำดับ โดยเรื่องใหม่จะอยู่บนสุด ส่วนเรื่องเก่าสุดก็จะอยู่ด้านล่างสุด  Blog อาจจะพัฒนาขึ้นมาอีกขั้นของ ไดอารี่ online ก็เป็นได้ โดย Blog จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรก็ได้ ไม่จำกัด ซึ่ง ไดอารี่ ก็ถือว่าเป็น Blog ในรูปแบบหนึ่งBlog ส่วนใหญ่มักจะเขียนโดยคนเพียงคนเดียว แต่ก็มีไม่น้อยที่เขียนเป็นกลุ่ม โดยอาจจะมีเรื่องราวเฉพาะไปที่ๆเรื่องประเภทเดียว หรือบางทีก็หลากหลาย ซึ่งส่วนใหญ่เรื่องราวที่เขียนขึ้นมานาน จะถูกเก็บรวบรวมเป็น Archives เก็บไว้ โดยมักจะแสดงผลเป็น link ในรูปแบบ วันเดือนปี เพื่อให้เราสามารถกดเข้าไปดูได้ ก็ไม่ต้องตกใจว่าที่หน้าแรกของ Blog บางทีก็มีเรื่องแสดงแค่ 10 เรื่องก็หมดแล้ว เพราะบางทีใน Archives อาจมีเรื่องอยู่ในนั้นอีกเป็นร้อยๆ โดยที่เราต้องเข้าไปดูBlog มักจะมาคู่กับระบบ Comment ที่เปิดโอกาสให้คนอ่าน สามารถ Comment ข้อความต่อท้ายในเรื่องที่เรา post ได้ คล้ายๆรูปแบบของ Webboard ไม่ว่าจะเป็นติชม แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม หรือบอกแหล่งข้อมูลใหม่ๆ หรืออาจจะแค่ทักทายเจ้าของ ฺBlog ก็เป็นได้ ถ้าคุณลองเลื่อนไปดูด้านล่างของเรื่องนี้ จะพบช่องให้กรอก Comment ทิ้งข้อความไว้ให้ผมได้Blog อาจจะมีบริการทั้งเสียเงิน และไม่เสียเงิน ขึ้นอยู่กับรูปแบบของการให้บริการ ซึ่งมักจะติดตั้ง Tool ให้เราสามารถใช้งานได้ง่ายๆ โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์มากมายนัก โดยส่วนใหญ่แล้ว Blog หลายๆที่มักจะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และลึก เนื่องจากเจ้าของ Blog มักจะนำข้อมูลที่ตัวเองรู้ หรือประสบการณ์มาถ่ายทอด โดยค่อนข้างเป็นกันเอง   แต่ในปัจจุบัน บริษัทใหญ่ๆ ก็หันมามี Blog เป็นของตัวเองกันมาก ไม่ว่าจะเป็น Google , Yahoo เพราะ Blog สามารถทำตัวเป็น PR ให้กับบริษัทได้ โดยสร้างความรู้สึกเป็นกันเอง ไม่มีพิธีอะไรมาก สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรง โดยไม่ต้องเป็นทางการมากนัก และลูกค้าก็ชอบที่จะติดต่อสื่อสารผ่านทาง Blog ด้วย   
       5.2 HTML หรือ HyperText Markup Language หมายถึง ภาษาคอมพิวเตอร์รูปแบบหนึ่ง ที่มีโครงสร้างการเขียนโดยอาศัยตัวกำกับ (Tag) ควบคุมการแสดงผลข้อความ, รูปภาพ หรือวัตถุอื่นๆ ผ่านโปรแกรมเบราเซอร์ แต่ละ Tag อาจจะมีส่วนขยายที่เรียกว่า Attribute สำหรับระบุ หรือควบคุมการแสดงผล ของเว็บได้ด้วย
      5.3 เว็บไซต์โซเชียลมีเดีย หมายถึง Facebook, Twitter, Google+, LinkedIn, blogs และforum สร้างการติดต่อแบบส่วนตัวในแบบที่เว็บไซต์อย่างเดียวไม่สามารถทำได้ ผู้เชี่ยวชาญโซเชียลมีเดียของคุณทำงานขึ้นตรงกับคุณเพื่อชี้แจงข้อมูลในปัจจุบันเกี่ยวกับบริษัทของคุณและบริการผ่านการอัพเดท Facebook อย่างสม่ำเสมอและการทวีต Twitter เราใช้กลยุทธ์ในการเพิ่มฐานสมาชิกของคุณบน Facebook, Follower บน Twitter และขยายวงจรไปบน Google+ เพจ Facebook, Google+ และ Twitter ถูกตรวจสอบประจำวันเพื่อให้มีฟีดแบคกลับไปยังลูกค้าและคำร้อง/คอมเมนท์ที่เป็นลบได้รับการตอบรับและจัดการ คุณสร้างเน็ตเวิร์กของคุณในการติดต่อแบบ business-to-business บน LinkedIn ในการเปิดรับความเป็นไปได้ของการอ้างอิงและการเชื่อมโยงที่มีมูลค่าอื่นๆ มีบล็อกและฟอรั่มเพิ่มเติมให้กับร้านค้าของคุณและลูกค้าของคุณสำหรับฟีดแบคและการสื่อสารทางตรงในขณะที่สร้างลิ้งค์ที่มีคุณค่าสำหรับเว็บไซต์ของคุณ
       5.4 เว็บไซต์ หมายถึง   เครือข่ายที่เชือมต่อกันทั่วโลก เรามักเรียกย่อๆกันว่า เว็บ คือรูปแบบหนึ่งของระบบการเชื่อมโยงเครือข่ายข่าวสาร ใช้ในการค้นหาข้อมูลข่าวสารบน Internet จากแหล่งข้อมูลหนึ่ง ไปยังแหล่ง ข้อมูลที่อยู่ห่างไกล ให้มีความง่ายต่อการใช้งานมากที่สุด   WWW จะแสดงผลอยู่ในรูปแบบของเอกสารที่เรียกว่า ไฮเปอร์เท็กซ์ (Hyper Text) ซึ่งเป็นฐานข้อมูลชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่รวบรวมข่าวสารข้อมูลที่อยู่กระจัดกระจายในที่ต่าง ๆ ทั่วโลกให้สามารถนำมาใช้งานได้เสมือนอยู่ในที่เดียวกัน  โดยใช้เว็บเบราเซอร์ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ช่วยในการดู หรืออ่านข้อมูลเหล่านั้น เว็บเบราวเซอร์ที่นิยมใช้ เช่น IE Microsoft Internet Explorer , Firefox , google chrome เป็นต้น

6.  วัตถุประสงค์ของโครงงาน
     6.1 เพื่อจัดทำเว็บบล็อกเรื่อง “ตำรับของขนมไทย”
     6.2 เพื่อศึกษาประวัติความเป็นมาของขนมไทย  
     6.3 เพื่อศึกษาสูตรใหม่ๆๆของขนมไทยในปัจจุบัน

7.  ขอบเขตของโครงงาน
     7.1 ศึกษาการทำขนมไทยในรูปแบบต่างๆ เช่น ประวัติของขนมไทย ประเภทของขนมไทย เป็นต้น
     7.2 นำเสนอในรูปแบบการทำงานและเผยแพร่ทางสื่ออินเทอร์เน็ต

8.  เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนา
     8.1 โปรแกรม Photoscape ใช้ในการแต่งรูปต่างๆ
     8.2 โปรแกรม Microsoft Office Word ใช้ในการพิมพ์งานเอกสารต่างๆ
     8.3 เว็บ Blogger.com ใช้ในการสร้างเว็บไซต์

9.  ขั้นตอนวิธีการดำเนินงาน
การดำเนินการ
วันที่/ระยะเวลาที่ดำเนินการ
ผู้รับผิดชอบ
กำหนดหัวข้อโครงงาน
5 พ.ย. 55 – 9 พ.ย. 55
วิชญา
เสนอโครงร่างโครงงาน
12 พ.ย. 55 – 16 พ.ย. 55
วิชญา
ลงพื้นที่รวบรวมข้อมูล
26 พ.ย. 55 – 30 พ.ย. 55
ทั้งกลุ่ม
วิเคราะห์ข้อมูล
3 ธ.ค. 55 – 5 ธ.ค. 55
ศิรัญญา
ออกแบบเว็บไซต์
7 ม.ค. 56 – 18 ม.ค. 56
กนกพร
พัฒนาเว็บไซต์
21 ม.ค. 56 – 26 ม.ค. 56
กนกพร
ทดสอบและแก้ไข
28 ม.ค. 56 – 30 ม.ค. 56
วิชญา
นำเสนอโครงงาน
4 ก.พ. 56 – 6 ก.พ. 56
ศิรัญญา
ประเมินผลโครงงาน
11 ก.พ. 56 – 18 ก.พ. 56
วิชญา

10.  ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
     10.1 ทำให้ได้เว็บบล็อกเรื่อง “ตำรับของขนมไทย”
     10.2 ทำให้ได้รู้สูตรใหม่ๆของขนมไทยในปัจจุบัน
     10.3 ทำให้รู้ประวัติความเป็นมาของขนมไทย
     10.4 ทำให้ได้รู้จักประเภทของขนมเพิ่มมากยิ่งขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น